วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

บันทึกการเรียน ครั้งที่ 2 (14/11/56)

          วันนี้อาจารย์ได้สรุปคะแนนทั้งหมด ดังนี้
  1. จิตพิสัย   10  คะแนน
  2. งานเดี่ยว (วิจัย)   10  คะเเนน
  3. งานกลุ่ม (นำเสนอ)   20  คะแนน
  4. บันทึกอนุทินลง Blog   20  คะแนน
  5. โทรทัศน์ครู   10  คะแนน
  6. สอบกลางภาค   15  คะแนน
  7. สอบปลายภาค   15  คะแนน
จากนั้นอาจารย์ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่ม 9 คน 3 กลุ่ม / 10 คน 2 กลุ่ม โดยมีหัวข้อเรื่องที่ต้องทำ ดังนี้
  • เด็ก ซี.พี
  • เด็กดาวน์ซินโดรม
  • เด็กออทิสติก
  • เด็กสมาธิสั้น
  • เด็กแอลดี
กลุ่มของดิฉันได้หัวข้อ เรื่อง เด็กออทิสติก

ต่อจากนั้น อาจารย์ได้อธิบาย ความหมายของเด็กพิเศษ
  1. ทางการเเพทย์ จะเรียกว่า "เด็กพิการ" เพื่อใช้เกี่ยวกับการบำบัดรักษาเด็ก
                หมายถึง เด็กที่มีความผิดปกติ มัความบกพร่อง สูญเสียสมรรถภาพ อาจเป็นความผิดปกติ ความบกพร่องทางกาย การสูญเสียสมรรถภาพทางสติปัญญา ทางจิตใจ

    2.  ทางการศึกษา

                หมายถึง เป็นเด็กที่ต้องได้รับการศึกษาเฉพาะของตัวเอง ซึ่งจำเป็นต้องจัดการศึกษาให้ต่างไปจากเด็กปกติทางด้านเนื้อหา กลักสูตร กระบวนการที่ใช้และกระประเมินผล

   สรุป
  • เด็ที่ไม่อาจพัฒนาความสามารถได้เท่าที่ควรจากการให้การช่วยเหลือ และการสอนตามปกติ
  • มีสาเหตุจากสภาพความบกพร่องทางร่างกาย สติปัญญา อารมณ์
  • จำเป็นต้องได้รับการกระตุ้น ช่วยเหลือ การบำบัด และฟื้นฟู
  • จัดการเรียนการสอนที่เหมาะกับลักษณะและความต้องการของเด็กแต่ละบุคคล
ประเภทของเด็กพิเศษ มี 10 ประเภท แบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ 2 กลุ่ม คือ
  1. กลุ่มเด็กที่มีลักษณะทางความสามารถสูง
                มีความเป็นเลิศทางสติปํญญา เรียกโดยทั่วๆไปว่า "เด็กสติปํญญาเลิศ"

    2.  กลุ่มเด็กที่มีลักษณะทางความบกพร่อง
             
               กระทรวงศึกษาธิการ ได้เเบ่งออกเป็น 9 ประเภท เพื่อความสะดวกในการคัดเลือกโรงเรียน
  1. เด็กบกพร่องทางสติปัญญา
  2. เด็กบกพร่องทางการได้ยิน
  3. เด็กบกพร่องทางการเห็น
  4. เด็กบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
  5. เด็กบกพร่องทางการพูดและภาษา
  6. เด็กบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
  7. เด็กที่มีปํญหาทางการเรียนรู้
  8. เด็กออทิสติก
  9. เด็กพิการซ้อน
ประเภทที่ 1 เด็กบกพร่องทางสติปัญญา
           หมายถึง เด็กที่มีระดับสติปํญญาหรือเชาว์ปํญญาต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยเมื่อเทียบเด็กในอายุเดียวกัน มี 2 กลุ่ม คือ 1. เด็กเรียนช้า  2. เด็กปัญญาอ่อน

ประเภทที่ 2 เด็กบกพร่องทางการได้ยิน
          หมายถึง สูญเสียการได้ยินเป็นเหตุให้การรับฟังเสียงต่างๆ ได้ไม่ชัดเจน มี 2 ประเภท คือ 1. หูตึง  2. หูหนวก

ประเภทที่ 3 เด็กบกพร่องทางการเห็น
  • เด็กที่มองไม่เห็นหรือพอเห็นแสง เห็นเลือนลาง
  • มีความบกพร่องทางสายตาทั้งสองข้าง
  • สามารถเห็นได้ไมาถึง 1/10 ของคนสายตาปกติ
  • มีลานสายตากว้งไม่เกิน 30 องศา
   จำแนกได้ 2 ประเภท คือ 1. เด็กตาบอด  2. เด็กตาบอดไม่สนิท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น